• ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงหลังภาพรวมรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ จากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมที่จะถึงในสัปดาห์นี้

โดยราคาทองคำตลาดโลกอ่อนตัวลงมา 0.3% ที่ระดับ 1,312.36 เหรียญ และภาพรวมรายสัปดาห์ปรับตัวลงไป 0.8% ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดลดลง 5.5 เหรียญ คิดเป็น -0.4% ที่ระดับ 1,312.3 เหรียญ

• กองทุน SPDR เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทำการซื้อทองคำเข้า 2.07 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 840.22 ตัน

• ภาพรวมราคาทองคำยังมีแรงหนุนในฐานะ Safe-Haven บางส่วน จากความวุ่นวายทางการเมืองในสหรัฐฯ ขณะที่ทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดช่วยทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• นักวิเคราะห์ CPM Group กล่าวว่า แนวโน้มทองคำเป็นขาลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก่อนที่จะเกิดการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และก็มีการฟื้นตัวตามมา ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาทองคำฟื้นตัวกลับได้ แม้เราจะเห็นโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในขณะนี้ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ส่งผลลบอะไรกับทองคำมากนัก โดยทองคำมีแนวรับสำคัญบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันที่ระดับ 1,304 เหรียญ และมีระดับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,300 เหรียญ ขณะที่แนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วันอยู่ที่ 1,290 เหรียญ ซึ่งภาพรวมทองคำยังมีแรงหนุนจากภาวะตึงเครียดทางการเมืองที่ไม่แน่นอนของสหรัฐฯ ประกอบกับแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่ดูจะสร้างผลกระทบต่อการค้าโลก

• ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศปลดที่ปรึกษาด้านความมั่นคงอย่างนายแม็คมาสเตอร์ จึงอาจกลายมาเป็นประเด็นใหม่ล่าสุดที่เจ้าหน้าที่อาวุโสถูกปลดฟ้าผ่า ขณะที่สำนักข่าว The New York Times ตีประเด็นที่ นายโรเบิร์ต มูลเลอร์ คณะสืบสวนสอบสวนพิเศษของสหรัฐฯมีการออกหมายศาลที่มีคามเกี่ยวข้องกับธุรกิจของนายทรัมป์

• นักวิเคราะห์จาก Mitsubishi ระบุว่า ข่าวดังกล่าวดูเหมือนจะสร้างความสับสนให้แก่ตลาดถึงกลยุทธ์การดำเนินงานที่ทางทำเนียบขาวจะเลือกดำเนินการ และปัจจัยเหล่านี้ได้ช่วยหนุนให้ราคาทองคำยังยืนเหนือ 1,300 เหรียญได้ แต่ภาพแพทเทิร์นของทองคำโดยทั่วไปก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นเหนือระดับดังกล่าว

• วิกฤตการณ์ทางการทูตระหว่างรัสเซีย-อังกฤษ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ทองคำยังคงถูกเลือกถือครองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

• นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโสจาก RJO Futures กล่าวว่า การร่วงลงของทองคำส่วนหนึ่งมาจากความสัมพันธ์กับราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆที่ปรับตัวลดลงตาม

• นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์ดูเหมือนจะอยู่ในทิศทางแข็งค่าต่อในสัปดาห์นี้ และน่าจะเข้ากดดันให้ทองคำอ่อนตัวจากแรงเทขายทำกำไรในระยะสั้นๆ เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอาจไม่ได้ส่งผลให้ราคาทองคำค่อยๆปรับตัวขึ้นได้มาก แต่เราก็อาจได้เห็นทองคำค่อยๆปรับตัวขึ้นได้ต่อในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

อย่างไรก็ดี แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯจะขยายตัวได้ แต่เงินเฟ้อก็ยังขยายตัวไม่เพียงพอที่จะทำให้เฟดเร่งดำเนินการคุมเข้มทางการเงิน

• ขณะที่รายงานจาก Bloomberg มองว่า นักลงทุนในทองคำอาจกังวลต่อทิศทางดอกเบี้ยของเฟดว่าจะขึ้นได้จำนวน 3 หรือ 4 ครั้งในปีนี้ แต่เหตุผลเดียวที่จะทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยคือเรื่องการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อ และการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อจะเป็นผลดีต่อทองคำให้ขึ้นตามนั่นเอง

• ราคาซิลเวอร์ปิด -0.5% ที่ระดับ 16.29 เหรียญ โดยภาพรวมสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลดลงไป 1.9% ซึ่งเป็นระดับการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.

• ราคาแพลทินัมปิด -0.5% ที่ระดับ 949.10 เหรียญ ขณะที่ภาพรวมรายสัปดาห์ปรับตัวลดลง 1.6% และราคาพลาเดียมปิด +0.7% ที่ระดับ 993.1 เหรียญ และสิ้นสุดสัปดาห์ในลักษณะทรงตัว