ขณะที่หลายๆฝ่ายกำลังพยายามผลักดันเพื่อทำให้การประชุมร่วมกันระหว่างผู้นำสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ ในเดือน พ.ค. สามารถเกิดขึ้นได้จริง เพื่อเป็นการลดความตึงเครียดเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ให้กับทั่วโลก แต่ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนให้เห็นว่า ในปี 2017 นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ได้พยายามพัฒนาให้ขีปนาวุธของเขา สมบูรณ์แบบขึ้นเรื่อยๆ

ในปี 2017 ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้มีการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขา รวมทั้งยังสามารถพัฒนาขีปนาวุธลูกแรกที่สามารถยิงข้ามทวีปได้ ซ้ำยังข่มขู่จะยิงจู่โจมฐานทัพของสหรัฐฯในพื้นที่เกาะกวมอีกด้วย 

นับตั้งแต่ปี 2011 นายคิม ได้ยิงทดสอบขีปนาวุธกว่า 90 ลูก ดำเนินการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ถึง 4 ครั้ง  มากกว่าที่นายคิม จอง อิล บิดาของเขาได้ทำมาตลอด 27 ปีที่ครองบัลลังก์

คลังขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ประกอบไปด้วย ขีปนาวุธทั้งในพิสัยระยะใกล้ กลาง แบบยิงข้ามทวีปได้ และขีปนาวุธร่อน ในจำนวนขีปนาวุธทั้งหมดที่กล่าวถึง ขีปนาวุธรุ่น Hwasong-15 ซึ่งเป็นขีปนาวุธแบบยิงข้ามทวีป ถือว่ามีพลานุภาพสูงที่สุด นับตั้งแต่ที่เริ่มทำการทดสอบมา

นอกจากนี้ เฉพาะแค่ในปี 2017 เกาหลีเหนือได้ทำการยิงขีปนาวุธไปแล้วกว่า 24 ลูก รวมถึงทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ที่สุดอีก 1 ครั้ง ซึ่งในตลอดรอบศตวรรษที่ผ่านมา เกาหลีเหนือเป็นเพียงประเทศเดียวที่ได้มีการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 6 และเป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมา โดยผู้เชี่ยวชาญได้ประเมินไว้ว่าเป็นระเบิดไฮโดรเจนที่มีแรงระเบิดมากถึง 120 กิโลตัน หรือเทียบเท่ากับระเบิดTNT น้ำหนักกว่า 265 ล้านปอนด์

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังได้ระบุอีกว่า นายคิมได้มีการกล่าวย้ำเตือนอยู่เสมอๆ ว่าอาวุธนิวเคลียร์คือสิ่งที่ทำให้เกาหลีเหนือสามารถรักษาความมั่นคงของชาติมาได้ตลาด และยังยึดถืออำนาจของอาวุธนิวเคลียร์ให้เป็นรากฐานของระบอบการปกครองอีกด้วย จึงไม่มีท่าทีที่เกาหลีเหนือจะยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์ของพวกเขาได้ง่ายๆแน่นอน

ที่มา: CNBC