สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 16 มีนาคม 2561

ข่าว

สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 16 มีนาคม 2561

16 มีนาคม 2561
 

• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ ท่ามกลางเหล่าเทรดเดอร์ที่ปิดลดสถานะการถือครอง Short และรอคอยการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า ซึงเฟดถูกคาดการณ์ว่าจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของปีนี้

ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.5% ที่ระดับ 90.106 จุด ขณะที่นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมี.ค.เป็นต้นมา ภาพรวมค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงไปประมาณ 0.7%

โดยเมื่อคืนนี้ค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนบางส่วนจากข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้วสู่ระดับ 226,000 ราย หรือลดลงไป 4,000 ราย เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า จึงยังบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 158 ซึ่งถือเป็นระดับความต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970

ข้อมูลความเชื่อมั่นภาคการผลิตสองตัวของสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกิจกรรมภาคการผลิตอย่างต่อเนื่องในเดือนมี.ค. โดยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมของสหรัฐฯ (Empire State Index) กลับออกมาขยายตัวได้เกินคาดแตะ 22.5 จุด จากเดิมที่ระดับ 13.1 จุดในเดือนก่อนหน้า แม้ว่าดัชนีภาคการผลิตที่สำรวจโดยเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย อ่อนตัวลงเล็กน้อยมาที่ 22.3 จุด จากระดับ 25.8 จุดในเดือนก.พ. แต่การเคลื่อนไหวของดัชนีทั้งสองก็ยังคงยืนยันถึงเงื่อนไขการฟื้นตัวทางภาคการผลิตได้เป็นอย่างดี

ขณะที่ข้อมูลบางส่วนชี้ให้เห็นว่าราคานำเข้าสินค้าในเดือนก.พ. เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ จึงกลับมาเพิ่มกระแสคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อปีนี้ ขณะที่ตลาดแรงงานแข็งแกร่ง และแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในระดับทรงตัว อาจส่งผลให้เฟดพิจารณาการขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

• นักวิเคราะห์การตลาดจาก Forex.com กล่าวว่า หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจออกมาผสมผสานกัน ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลการจ้างงานที่ออกมาแข็งแกร่ง และการอ่อนตัวของค่าแรงในคืนวันศุกร์ที่แล้ว ได้ส่งผลให้เหล่าเทรดเดอร์ทำการปิดสถานะ Short ในค่าเงินดอลลาร์เพื่อรอประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า

• นักวิเคราะห์บางส่วน มองว่า ค่าเงินดอลลาร์ยังมีปัจจัยลบจากภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ จากทีมบริหารของนายทรัมป์ และความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับ Trade War

• ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง 0.2% ที่ระดับ 106.13 เยน/ดอลลาร์ โดยค่าเงินเยนได้รับอานิสงส์จากความตึงเครียดทางการค้าจึงส่งผลให้มีการเข้าถือครองค่าเงินเยนเพิ่มขึ้น และอาจจะแข็งค่าต่อในฐานะ Safe-Haven จากท่าทีกีดกันทางการค้า

• ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.5% ที่ระดับ 1.2308 ดอลลาร์/ยูโร โดยตลาดยังคงถูกกดดันจากถ้อยแถลงของประธานอีซีบี ที่ชี้ว่า เงินเฟ้อระดับต่ำเป็นปัจจัยที่ทำให้อีซีบียังต้องคงนโยบาย และเป็นปัจจัยสำคัญในการนำมาพิจารณาสิ้นสุดการดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

• สำนักข่าว The New York Times รายงานว่า นายโรเบิร์ต มูลเลอร์ หัวหน้าคณะสืบสวนพิเศษประจำรัฐสภา ได้มีการออกหมายศาลเพื่อขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย จากบรรดาธุรกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงนับเป็นครั้งแรกที่คณะสืบสวนพิเศษได้มีการออกหมายศาลโดยตรงต่อธุรกิจของนายทรัมป์ บ่งชี้ว่าการสืบสวนกำลังเคลื่อนเข้าใกล้ตัวนายทรัมป์มากขึ้น

• ที่ปรึกษาด้านอัตราแลกเปลี่ยนระดับสูงของทำเนียบขาย เผยกับ CNBC ว่า แนวทางการค้าโลกของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อันหมายรวมถึงการเรียกเก็บภาษีนำเข้าโลหะครั้งใหม่ ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดสงครามทางการค้า แต่มีขึ้นเพื่อให้เกิดผลดีต่อชาวสหรัฐฯและระบบการซื้อขายสินค้าทั่วโลก โดยที่เราอาจร่วมมือกันแบบสันติวิธีและอาจนำไปสู่การฟื้นตัวและความแข็งแกร่งของระบบการค้า ดังนั้น ทุกคนจึงไม่ควรเป็นกังวลไป

• นายวิลเบอร์ รอส รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และนางเซลิเซีย คณะกรรมาธิการกำกับดูแลการค้าของยุโรปมีการตกลงจะเข้าพบกันในสัปดาห์หน้าเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการค้าที่เกิดขึ้นจากการเรียกเก็บภาษีนำเข้า และทางอียู มีมุมมองเชิงบวกว่าจะได้รับการยกเว้น เนื่องจากเป็นชาติพันธมิตรด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ซึ่งการทำงานร่วมกันของทั้งสองฝั่งจะเอื้อต่อเศรษฐกิจโลก แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นก็อาจทำลายเศรษฐกิจของทั้งสองฝั่งได้เช่นกัน

• ตัวแทนทางการทูตในการเจรจากับทางเกาหลีเหนือของสหรัฐฯ เผยว่า เขามีการเรียกร้องให้เกาหลีเหนือทำการปล่อยนักโทษชาวอเมริกา 3 คนก่อนจะเกิดการเจรจาระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เพื่อทำให้เกิดสัญญาณบวกต่อการเจรจาครั้งนี้

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ชาวรัสเซียจำนวนหนึ่ง ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปี 2016 และการที่สหรัฐฯถูกโจมตีทางไซเบอร์ แต่ได้มีการยกเว้นเจ้าหน้าที่ ที่ใกล้ชิดกับนายวลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และบรรดาคณาธิปไตย ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากบรรดาสมาชิกสภา เพื่อกดดันให้นายทรัมป์ดำเนินการแข็งกร้าวมากขึ้นต่อรัสเซีย

ทั้งนี้ โฆษกประจำทำเนียบขาว ได้ยืนยันต่อบรรดาสื่อว่า คณะบริหารของนายทรัมป์ จะยังคงมาตรการที่แข็งกร้าวต่อรัสเซียต่อไป

• โฆษกประจำทำเนียบขาว เผย คณะบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เริ่มดำเนินการผลักดันให้นโยบายปฏิรูปภาษี เฉพาะในส่วนของการปรับลดภาษีรายบุคคล ให้สามารถมีผลได้อย่างถาวร ขณะที่สภาคองเกรสในปัจจุบันกำลังพยายามผลักดันร่างงบประมาณฉบับใหม่ให้ทันก่อนที่ร่างงบประมาณฉบับก่อนหน้านี้จะหมดอายุลงในวันที่ 23 มี.ค. คณะบริหารจึงตั้งเป้าให้สามารถผลักดันนโยบายปลับลดภาษีรายบุคคลแบบถาวรได้ก่อนวันที่ 6 พ.ย. ปีนี้

• ทำเนียบขาว เผยว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯยังไม่มีการตัดสินใจในตอนนี้ว่าจะทำการลงนามกฎหมายที่จะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเดินทางไปยังไต้หวันเพื่อพบกับหุ้นส่วนชาวไต้หวันของเขาหรือไม่

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางปริมาณการซื้อขายระดับปานกลาง หลังจากที่กระทรวง IEA สหรัฐฯ คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ และอาจช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันดิบยืนเหนือ 60 เหรียญ/บาร์เรลได้ แต่ก็มีการกล่าวเตือนให้ระวังภาวะอุปทานที่อาจขยายตัวได้อย่างรวดเร็วควบคู่กัน

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 23 เซนต์ คิดเป็น +0.4% ที่ระดับ 61.19 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 23 เซนต์เช่นกัน ที่ระดับ 65.12 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส แคปปิตอล จำกัด
10,12,14 ชั้น 3 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Copyright © 2014 MTS Capital Co., Ltd. All right reserved